วัณโรค เป็นแล้วไม่เท่ากับตาย หากรักษาทัน เช็คร่างกายด่วน โควิด-19 หรือวัณโรค หรือแค่ไอปกติ
วัณโรค เป็นแล้วไม่เท่ากับตาย หากรักษาทัน คนเรามีอาการไอได้ 2-3 สัปดาห์ก็หายเอง หากไอเรื้อรังยาวนานเกิน 8 สัปดาห์ต้องพบแพทย์
ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ได้ แพร่ระบาดไปทุกทวีปทั่วโลก ในอดีต วัณโรค เป็นโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจที่สร้างความหวาดกลัวและคร่าชีวิตของใครหลายคนเช่นเดียวกัน แต่ในปัจจุบัน โรควัณโรคไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดและสามารถรักษาได้
วัณโรคเป็นแล้วตายจริงหรือไม่?
ผศ. นพ.ธีระศักดิ์ แก้วอมตวงศ์ ระบุว่า ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสมัย 10-20 ปีก่อน ความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีทางการแพทย์นั้นยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ผู้ป่วยวัณโรคไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อีกทั้งยาในสมัยก่อนมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ป่วยกินๆ หยุดๆ กินยาไม่ครบจนเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตลง
วัณโรคไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอีกต่อไป เพราะหากผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ทันท่วงที กินยาจนครบก็สามารถรักษาได้ แต่ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้เช่นเดียวกัน โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโรคได้คาดการณ์ตัวเลขของผู้ที่มีเชื้อวัณโรค อยู่ในร่างกายพบว่ามีมากถึง 54 ล้านคนทั่วโลก แต่จะมีผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้อยู่แค่ประมาณ 6-7 ล้านคนเท่านั้น
ความเชื่อที่ว่าไอ 100 วัน = วัณโรค จริงหรือไม่?
ความเชื่อนี้อาจเป็นความเชื่อของคนโบราณหรือคนสมัยก่อน โดยทั่วไปแล้วคนที่มีร่างกายปกติจะไอและหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่คนที่เป็นวัณโรคส่วนใหญ่จะเริ่มจากมีอาการไอเรื้อรัง ซึ่งอาการไอเรื้อรังนั้นต้องมีการไอติดต่อกันนานถึง 8 สัปดาห์ขึ้นไป
ไม่ได้หมายความว่า คนที่มีอาการไอเรื้อรังจะต้องเป็นวัณโรคเสมอไป ต้องดูสัญญาณและอาการอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีไข้ ไอมีเลือดปน เจ็บหน้าอก หายใจขัด ฯลฯ หากใครมีอาการเหล่านี้ให้รีบมาตรวจทันทีโดยที่ไม่ต้องรอให้ครบ 100 วัน
เรียบเรียง ข่าวฟุตบอล ติดตาม ลิเวอร์พูล อ่านข่าวอื่นๆ คลิ๊ก